วันอาทิตย์ที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

ผลไม้ใกล้ตัวที่ควรระวัง

ทราบหรือไม่ว่าการกินผลไม้นอกจากมีประโยชน์แล้วยังสามารถทำให้อ้วนได้อีก วันนี้มีมาบอก...
การกินผลไม้ กินแล้วดี มีประโยชน์มากมาย แต่บางครั้งก็ต้องเลือกกิน

และกินในปริมาณที่พอดี เพราะมีผลไม้บางชนิดที่มีน้ำตาลสูง ซึ่งอาจจะทำให้อ้วนได้
ผลไม้ที่กิน แล้วอ้วนสุด ๆ คือ กล้วยไข่
อันดับ 2 คือ กล้วยน้ำว้า
อันดับ 3 คือ ขนุน
อันดับ 4 คือ กล้วยหอม
อันดับ 5 คือ มะม่วงน้ำดอกไม้สุก
อันดับ 6 คือ ลำไยกะโหลกเขียว
อันดับ 7 คือ ลองกอง
อันดับ 8 คือ เงาะ
อันดับ 9 คือ ลางสาด
อันดับสุดท้ายน้ำตาลน้อยสุด คือ ละมุด
แต่ ทุเรียน ก็เป็นผลไม้ ที่ขึ้นชื่อว่ามีน้ำตาลสูงมาก ๆ ใครที่กินรับรองอ้วนแน่ ส่วนผลไม้ที่กินเท่าไหร่ก็ไม่อ้วน ได้แก่ แอปเปิ้ล ชมพู่ ฝรั่ง มะม่วงดิบ มะละกอ และ แตงโม
รู้อย่างนี้แล้ว ถ้าไม่อยากอ้วนจนเกินไป ลองหาผลไม้ที่กินแล้วไม่อ้วนมากินกันได้

วันศุกร์ที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

ระวัง! แคลอรี่จะตามมา

เป็นที่ทราบกันดีว่ากฎข้อหนึ่งของการควบคุมน้ำหนักคือการควบคุมปริมาณแคลอรี่ที่เข้าสู่ร่างกาย

และในการดื่มน้ำชนิดต่างๆ ระหว่างวันก็เหมือนกัน คุณรู้ไหมว่าน้ำเหล่านี้มีแคลอรี่กันเท่าไหร่

1. น้ำอัดลม 1 กระป๋อง มีแคลอรี่ประมาณ 120-130 แคลอรี่ นอกจากนี้ยังมีกรดคาร์บอนิก สารกันบูด สารแต่งสี และ แต่งกลิ่น

2. เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ดูแล้วไม่น่าเชื่อ แต่แอลกอฮอล์ 1 กรัม ให้พลังงานสูงถึง 7 แคลอรี่ มากกว่าคาร์โบไฮเดรตเสียอีก (คาร์โบไฮเดรต 1 กรัม ให้พลังงาน 4 แคลอรี่) และแอลกอฮอล์ยังเป็นตัวการขัดขวางการเผาผลาญพลังงานของร่างกาย ไม่ให้เกิดขึ้นอย่างสมบูรณ์อีกด้วย

3. น้ำผลไม้ ถึงผลไม้จะมีประโยชน์และให้วิตามินสูง อีกทั้งยังถูกบรรจุอยู่ในเมนูลดน้ำหนัก แต่น้ำผลไม้หลายชนิดเช่นน้ำองุ่น น้ำส้ม หรือน้ำสับปะรดก็ให้น้ำตาลสูงและยังไม่มีไฟเบอร์เหมือนรับประทานผลไม้ทั้งผล ยิ่งถ้าคุณเป็นคนติดรสหวานและเติมน้ำเชื่อมเข้าไปด้วยแล้ว แคลอรี่ที่ได้จะยิ่งเพิ่มขึ้น

4. กาแฟ 1 แก้ว เติมน้ำตาล 2 ช้อนชา และ ครีม 2 ช้อนชาให้แคลอรี่ 65 แคลอรี่ แต่ถ้าเป็นกาแฟเย็นคาปูชิโน่ หรือ กาแฟปั่นแฟรบปูชิโน่หวานมันจะได้แคลอรี่เพิ่มขึ้นอีกหลายเท่าตัว

5. ชาเย็น นมเย็น โอวัลตินเย็น และ ช็อกโกแลตเย็น 1 แก้วให้พลังงาน 220 – 400 แคลอรี่ อันเนื่องมาจากนมข้นหวานและน้ำตาลซึ่งเป็นส่วนประกอบหลัก

6. นมสด 1 แก้ว (240 ml) ให้พลังงาน 125 แคลอ

เป็นยังไงล่ะคะกับข้อมูลแคลอรี่ที่มาพร้อมกับเครื่องดื่มถ้วยโปรด ความจริงแล้ว เครื่องดื่มที่วิเศษที่สุดสำหรับคนที่ต้องการควบคุมน้ำหนักก็คือน้ำเปล่านั่นเองค่ะ เพราะนอกจากยังไม่มีแคลอรี่แล้ว น้ำยังช่วยรักษาสมดุลของร่างกาย และ ทำให้การเผาผลาญไขมันเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ผู้ที่ควบคุมน้ำหนักจึงควรเลือกน้ำเปล่าเป็นตัวเลือกแรกโดยหลีกเลี่ยงการดื่มน้ำอัดลม น้ำหวาน และ เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ส่วนเครื่องดื่มที่มีประโยชน์อย่างอื่นๆ เช่นนม หรือ น้ำผลไม้ควรดื่มในปริมาณที่เหมาะสม และทางที่ดีไม่ควรเติมน้ำตาลลงไปอีกนะคะ ลดความหวานลงสักนิด จะได้รูปร่างดีไปอีกนานๆไงคะ

วันจันทร์ที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

ตับ



บางคนไม่ชอบกินตับ เพราะรสชาติที่ไม่บรรเจิดสักเท่าไหร่ แต่พวกคุณรู้ไหมว่า คุณกำลังพลาดของดีอะไรบางอย่างไปบ้าง
>>วิตามิน A ช่วยสร้างและบำรุงรักษาผิหนังและเยื้อจมูกช่องในลำไส้ ทำให้เนื้อเยื้อในตาแข็งแรง
>>วิตามิน B12 ทำให้ผิวมีสุขภาพดี สายตาดี มองเห็นได้ชัดเจนในที่ที่มีแสงสว่างน้อย
>>วิตามิน B3 ทำให้ผิวหนัง ประสาท และลำไส้สุขภาพดี ระบบย่อยเป็นปกติ ทำให้กล้าเนื้อทำงาน ได้อย่างมีประสิทธภาพ
>>วิตามิน B5 ทำให้ร่างกายนำคาร์โบไฮเดรตและโปรตีนมาใช้ประโยชน์สูงสุด
>>วิตามิน B6 สร้างเม็ดเลือดแดงใหม่ๆ ให้กับร่างกาย
>>วิตามิน B12 บำรุงประสาทให้แข็งแรง ทำให้สมองทำงานได้ดี ความจำดี และทำให้การสร้าง เม็ดเลือดเป็นปกติ

วันจันทร์ที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

ฟังเพลงสนุกสนานรื่นเริง


ฟังเพลงสนุกสนานรื่นเริง ส่งเสริมสุขภาพใจแข็งแรง

นักวิจัยพบ ฟังเพลงโปรดมีส่วนช่วยทำให้ระบบหลอดเลือดทำงานดีขึ้น นับเป็นหลักฐานครั้งแรกที่แสดงว่าอารมณ์คนเราถูกปลุกขึ้นมา ได้เมื่อได้ฟังเพลงที่สนุกสนาน และมีผลดีต่อสุขภาพในการทำหน้าที่ของหลอดเลือดอีกด้วย
นักวิจัยคณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยแมรีแลนด์ ในบัลติมอร์ ได้ศึกษากับอาสาสมัครชายสุขภาพดี ไม่สูบบุหรี่ 70 เปอร์เซ็นต์ อายุเฉลี่ย 36 ปี พบว่า ดนตรีที่อาสาสมัครเลือกฟังแล้วทำให้อารมณ์ดีสนุกสนานนั้น จะทำให้ เนื้อเยื่อในหลอดโลหิตขยายตัว เพื่อให้กระแสโลหิตไหลเวียนดีขึ้น ผลสนองตอบด้านสุขภาพเช่นนี้เป็นไปในแนวทางเดียวกันกับที่นักวิจัยกลุ่มเดียวกันนี้เคยศึกษาไว้เมื่อปี 2548 เกี่ยวกับเรื่องการหัวเราะ
อย่างไรก็ตาม จากผลการศึกษาครั้งนี้ ยังพบว่า เมื่ออาสาสมัครฟังเพลงในแบบที่ตนรู้สึกว่าเคร่งเครียดจะส่งผลต่อหลอดเลือดให้ตีบแคบลง กล่าวคือ การไหลเวียนของโลหิตลดลงนั่นเอง