วันอังคารที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2551
ท่านอนที่ดีที่สุด
การนอนหลับคือการพักผ่อนที่ดีที่สุดสำหรับคนเรา แต่ถ้านอนไม่ดีก็อาจจะทำให้เราไม่ได้พักผ่อนก็ได้ แล้วท่านอนที่ดีสำหรับตัวเราคือท่าไหนกัน ลองไปดูกันเลย
นอนหงาย ใช่แล้วค่ะ ท่านอนท่าดีคือท่าที่ดีที่สุด เพราะท่านี้จะช่วยทำให้ร่างกายและระบบภายในไม่มีแรงกดทับ เลือดลมก็ไหลเวียนได้สะดวก ทำให้หายใจคล่องและหลับลึกได้เต็มที่ แต่ท่านอนท่านี้จะไม่เหมาะกับคนที่เป็นโรคกรดไหลย้อน เนื่องจากมันไปเพิ่มแรงดันในช่องท้อง ทำให้อาการอาจจะรุนแรงขึ้นก็ได้
นอนตะแคง ถ้าคุณชอบนอนตะแคง ขอแนะนำให้นอนตะแคงด้านซ้าย เพราะจะทำให้สร้างแรงกดทับที่หัวใจและกระดูกสันหลังน้อยกว่า ท่านี้จะเหมาะมากสำหรับคนที่นอนไม่ค่อยหลับหรือหลับยาก เพราะท่าตะแคงซ้ายจะช่วยทำให้คุณหลับได้เร็วขึ้น และยังไม่กรนอีกด้วย
นอนคว่ำ ใครที่ชอบการนอนหลับแบบไม่ให้ใครต้องการจะเห็นหน้าก็ควรเลือกท่านี้เลย แต่การนอนท่านี้จะมีผลร้ายมากกว่าผลดี เพราะการนอนท่านี้จะทำให้อวัยวะภายในทั้งหมดถูกกดทับ เลือดลมเดินไม่สะดวก ดีไม่ดีอาจจะขาดอากาศหายใจก็ได้ และยังเป็นบ่อเกิดแห่งริ้วรอยได้อีกด้วย
เป็นยังไงกันบ้างคะ เพื่อน ๆ ชอบนอนท่าไหน ไงก็ลองปรับดูนะคะจะได้นอนหลับสบายกัน
วันจันทร์ที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2551
ผักผลไม้ 7 ชนิด ที่ผู้หญิงควรรับประทาน
1. ลูกพรุน ต้องบอกเลยว่าเป็นแหล่งโปแทตสเซียม เหล็ก และไฟเบอร์ชั้นดี ที่สำคัญลูกพรุนยังช่วยให้สาวๆ มีเลือดฝาดดูเป็นสาวสดใส ยิ่งโดยเฉพาะสาวๆ ที่มีอายุ 25 ขึ้นไปร่างกายจะเริ่มเสื่อมโทรม ไขมันจะเริ่มสะสมตามที่ต่างๆ ผิวหน้าก็อาจจะหมองคล้ำลง ธาตุเหล็กที่มีในลูกพรุนจะช่วยดูแลเรื่องนี้ควบคู่กับภาวะที่สตรีต้องสูญเสียเลือดและธาตุเหล็กไปกับประจำเดือนอีกด้วย
3. บรอคโคลี มีซีลีเนียมมากซึ่งจะช่วยบำรุงผิวพรรณและช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับผิวหนัง ทำให้ผิวพรรณอ่อนนุ่มมีน้ำมีนวลแถมยังช่วยลดริ้วรอยเหี่ยวย่นได้
4. กล้วย โดยเฉพาะในกล้วยไข่จะมีสารเบต้าแคโรทีน ซึ่งสามารถต้านอนุมูลอิสระ เมื่อสาวๆ อายุ 22 ปีไปแล้ว ร่างกายจะเริ่มหยุดการเติบโต ความเสื่อมของร่างกายก็จะเริ่มมาเยือนค่ะ และนั่นก็จะทำให้เซลล์ในร่างกายทุกเซลล์ผลิตอนุมูลอิสระมากขึ้น ที่แน่นอนที่สุดความสามารถในการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอก็จะลดลงเรื่อยๆ ความสามารถในการกำจัดอนุมูลอิสระก็ลดลง นี่ล่ะค่ะ สาวๆ จึงต้องรับประทานกล้วยให้เยอะๆ
5. ฝรั่ง รู้รึเปล่าคะว่า ฝรั่ง 100 กรัม มีวิตามินซีสูงถึง 180 มิลลิกรัม ซึ่งวิตามินซีนี้มีบทบาทในการสร้าง "คอลลาเจน" ที่ทำให้ผิวพรรณเต่งตึงยืดหยุ่น ไม่เหี่ยวย่นก่อนวัย
6. แอปเปิ้ล มีเบต้าแคโรทีน วิตามินซี และไฟเบอร์ชนิดละลายน้ำ ที่ชื่อ "เพคติน" ซึ่งจะช่วยลดความอยากอาหาร ลดน้ำหนักและลดคอเลสเตอรอล ถ้าสาวๆ หิวเมื่อไหร่ล่ะก็ให้นึกถึงแอปเปิ้ลไว้ก่อนเลย
7. ส้ม เป็นแหล่งวิตามินเกลือแร่ และเส้นใยธรรมชาติ น้องๆ รู้มั้ยคะว่าการรับประทานส้มโดยไม่คายกากจะช่วยคุมน้ำหนักได้อีกทางนึงนะคะ เพราะจะทำให้เราอิ่มท้องเร็ว สาวๆ ที่อยากลดน้ำหนักต้องส้มเลย
วันอาทิตย์ที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2551
ผิวสดใสด้วยน้ำทะเล
แต่สาว ๆ ทราบหรือไม่ว่าการอาบน้ำทะเลนั้นสามารถทำให้ผิวสดใสเปล่งประกายได้ด้วยเช่นกัน
คราวนี้สาว ๆ ก็ไม่ต้องกลัวแล้วนะจ๊ะว่าเมื่อลงเล่นน้ำทะเลแล้วจะทำให้ผิวเสีย เพราะน้ำทะเลก็มีประโยชน์เหมือนกัน แต่ต้องระวังอย่าเล่นน้ำทะเลในช่วงที่แดดจัด ๆ นะจ๊ะ เพราะไม่อย่างนั้น น้ำทะเลก็อาจจะสู้แสงยูวีไม่ได้นะจ๊ะ
วันเสาร์ที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2551
5 เรื่องธรรมดาที่แอบร้าย
ฮอทด็อกสีแดงสด ภัยร้ายทำลายประสาท
วันศุกร์ที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2551
อย. เตือนภัย! คนกินช็อคโกแลต ระวังของปลอม
เลขาธิการ อย. กล่าวต่อว่า ส่วนปัญหาน้ำอัดลมยี่ห้อหนึ่ง ที่มีปัญหาในสหรัฐฯ ที่มีการโฆษณาเกินจริง เนื่องจากมีการตีพิมพ์ อวดสรรพคุณว่า มีการผสมวิตามีนในเครื่องดื่ม ซึ่ง อย.ของสหรัฐฯ กำลังถกเถียงกันในข้อกฏหมายและหาทางดำเนินคดี แต่ในประเทศไทยไม่มีการนำเข้าเครื่องดื่มดังกล่าว แต่เพื่อความไม่ประมาท ให้คณะอนุกรรมการควบคุมอาหาร ตรวจสอบติดตามอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการโฆษณาเกินความเป็นจริง มีการดำเนินคดีมาต่อเนื่อง
วันพุธที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2551
วงจรการมีประจำเดือน
22 อาหารไทย ต้านมะเร็งได้ดีที่สุด
แต่อาหารไทยเรานี้แหละที่จะสามารถต้านมะเร็งได้ โดยมีเมนูเด็ด 22 จานนี้ ถูกวิจัยจากสถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล แล้วว่าสามารถป้องกันมะเร็งได้ และเรียงลำดับดังต่อไปนี้
1. คะน้าน้ำมันหอย
3. ทอดมันปลากราย
17. แกงส้มผักรวม
21. ต้มยำกุ้ง
เห็นไหมละค่ะว่าอาหารไทยทั้งหากินง่าย ไม่ยาก สะอาดถูกหลักอนามัยและราคาไม่แพง แต่ว่ากินแล้วระวังน้ำหนักตัวด้วยนะค่ะ
ประโยชน์ของการหัวเราะ
ความดันโลหิตลดลง...
วันจันทร์ที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2551
ลดอาการผิวแห้งด้วยผลไม้สด
เทคนิคเพิ่มน้ำหนัก สำหรับคนผอม
7 จุดเริ่มต้น...ของสุขภาพสวย
วันอาทิตย์ที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2551
เปลี่ยนนิสัย ปราบโรคร้ายกันเถอะ
ควรเลี่ยงช็อกโกแลต ไวน์แดง เนยแข็ง ของหมักดอก ปลาซาร์ดีน ปละกะตัก กาแฟ และเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน
2. แผลในกระเพาะอาหาร
- เลิกกินหนักๆ 3 มือ เปลี่ยนเป็นกินน้อยๆ แต่กินบ่อนแกน
- เลิกดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ และคาเฟอีนทุกชนิด
- ไม่ดื่มนมและผลิตภัณฑ์จากนม เช่น โยเกิร์ต นมเปรี้ยว ครีม
- เวลาทานผัดผักควรใส่พริกชี้ฟ้าแดงลงไปด้วย เพระในพริกชี้ฟ้ามีสารอาหารที่ช่วยสมานแผลในกระเพะอาหาร
3. ท้องเสีย
ควรงดกินนม ผักผลไม้สด รำข้าว ธัญพืช ขนมหวาน ของหวานจัด อาหารที่ใส่เครื่องเทศมากๆ และชา กาแฟ จนกว่าอาการจะดีขึ้น
4. ภูมิแพ้
- พยายามทานเนื้อสัตว์ให้น้อยลง และกินฌปรตีนจากถั่วเหลืองแทน
- เลี่ยงชา กาแฟ เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน
- ทานผักสด ผลไม้ ข้างกล้อง ธัญพืช ถั่วเปลือกแข็งต่างๆ เพราะอาหารพวกนี้ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง จะได้เลิกแพ้เสียที
5. ความดันสูง
- ทานกระเทียมสดให้ได้วันละ 1-2 กลีบ และควรทานพร้อมอาหาร เพราะกระเทียมสดๆ จะกัดลำไส้
- งดอาหารเค็มจัด เช่น อาหารฟาสต์ฟู้ด เนย ชีส ของดองเกลือ หรืออาหารสำเร็จรูป
- ทานผักผลไม้ให้มากๆ
เห็นไหมค่ะว่าสิ่งเหล่านี้เราสามารถทำได้โดยไม่ต้องเสียเงินซื้อยามากินเอง โดยการรับประทานอาหารที่ดีมีประโยชน์ต่อสุขภาพ ค่ะ
วันพฤหัสบดีที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2551
ยกย่องเคล็ดรักษาโรคหวัด แถมราคาถูกปลอดภัยทั้งได้ผลดีด้วย
โปรตีน : จากสัตว์หรือพืชดีกว่ากัน?
วันอังคารที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2551
ทานผักผลไม้สดมากๆ ลดความเสี่ยงมะเร็งเต้านมกลับเป็นใหม่
ผลการศึกษานี้อาจใช้อธิบายได้ว่าเหตุใดการศึกษาบางชิ้นพบว่าการรับประทานผักผลไม้มาก ๆ ช่วยลดความเสี่ยงมะเร็งเต้านมกลับมาใหม่ให้แก่ผู้หญิงบางคน แต่บางคนกลับไม่ได้ผล การศึกษานี้ได้จากการวิเคราะห์ข้อมูลของผู้ป่วยมะเร็งเต้านม 3,000 คน อายุเฉลี่ย 53 ปี 1 ใน 3 ไม่มีอาการร้อนวูบวาบ ผู้ป่วยครึ่งหนึ่งรับประทานผักผลไม้วันละ 5 หน่วยตามที่ทางการแนะนำ
วันจันทร์ที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2551
Update! กระแสสุขภาพปี 2009 กันเถอะ
1.นวัตกรรมใหม่ แผลเล็ก เจ็บน้อย ถือเป็นพัฒนาการทางวงการแพย์ที่จะสามารถสร้างความพึงพอใจสูงสุด คือ ทำแล้วเห็นผลชัดเจน แต่เจ็บตัวน้อยกว่า คุณจึงมักจะได้ยินคำว่าแผลเล็ก เจ็บน้อย ใช้เวลาไม่นาน ฟื้นตัวเร็ว ฯลฯ จากวงการแพทย์ในช่วง 12 ปีหลังมานี้บ่อยมาก ในขณะที่นวัตกรรมก็ได้รับการพัฒนาออกมาเรื่อยๆ
2.หมดยุคการผ่าตัดและการรักษาที่ยุ่งยาก จากบทความในนิตยสาร New Beauty ของสหรัฐอเมริกา ฉบับประจำฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาว ปี 2008 ระบุว่า การผ่าตัดเพื่อความงามบางประเภท เช่น การผ่าตัดดึงหน้า มีแนวโน้มลดน้อยลงเรื่อยๆ ทว่า ตัวเลขที่ลดลงนี้ไม่ได้หมายความว่าสาวๆ เลิกห่วงสวย แต่เป็นเพราะมีทางเลือกอื่นแทน เช่น การใช้เทคโนโลยี "เทอร์มาจ" กระชับผิวหน้าควบคู่ไปกับการ "ฉีดโบทอกซ์ยกหน้า" ซึ่งเทรนด์การใช้เทคโนโลยีผสมผสานกันเพื่อการรักษาจะได้เห็นผลออกมาเป็นที่น่าพอใจ ก็เป็นอีกหนึ่งกระแสที่กำลังมาแรง
3.มินิเฟซลิฟต์ หรือการยกกระชับหน้าแบบไม่ต้องผ่าตัด ได้รับการคอนเฟิร์มว่าจะมาแรงแซงโค้งแน่ๆ ในปีหน้า ทั้งนี้เพราะบรรดาสาวๆ ยุค "เบบี้บูม" หรือสาวๆ ที่เกิดหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เริ่มมีอายุย่างเข้าสู่วัย 50 ปี ผิวหน้าก็ชักจะเริ่มหย่อนคล้อย เกิดอาการหน้าห้อย หน้าตกกันมากขึ้น จึงคาดกันว่าชาว "เบบี้บูม" เหล่านี้จะเลือกทำ "มินิลิฟต์" ที่ได้ผลใกล้เคียงการทำศัลยกรรม แต่เจ็บตัวน้อยกว่ากันเยอะ และดูเป็นธรรมชาติกว่ากันแทนแน่นอน
4.สาวหุ่นดีคือสาวผอม ถึงแม้จะมีความพยายามต่อต้านนางแบบที่ผอมมากๆ แต่ความผอมก็ยังคงเป็นที่ปรารถนาของสาวๆ ทุกคน
5.ขนตายาวดกหนา เป็นอีกหนึ่งเทรนด์ที่ "อิน" และยังไม่เอาต์ ล่าสุด มีข่าวออกมาว่า ภายในปีหน้า ราวๆ ช่วงซัมเมอร์ บริษัท อัลเลอร์แกน (บริษัทผู้ผลิตและจำหน่ายโบทอกซ์) จะออกผลิตภัณฑ์ที่ช่วยกระตุ้นให้ขนตางอกยาวและหนาขึ้นออกจำหน่าย หลายฝ่ายจึงคาดกันว่าผลิตภัณฑ์นี้จะเป็นที่ต้องการของสาวๆ ทั่วโลก และฮือฮาพอๆ กับโบทอกซ์
6.ผิวขาว เป็นอีกหนึ่งกระแสความงามที่ไม่เคยหนีหายไปไหน ถึงแม้ว่าสหรัฐอเมริกาจะมีประธานาธิบดีผิวสีแล้วก็เถอะ!!!
7.แอนไทเอจจิง (Anti–Aging) เป็นอีกหนึ่งกระแสสุขภาพที่คาดว่าจะได้รับความนิยมมากขึ้นในปี 2009 สำหรับแนวความคิดของแอนไทเอจจิงนั้น เน้นที่การ "ป้องกัน" แทนการ "รักษา" กล่าวคือการให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพ ชะลอหรือลดความเสื่อมต่างๆ เพื่อให้โรคภัยไข้เจ็บหรือความเสื่อมถอยมาถึงเราได้ช้าที่สุดหรือน้อยที่สุด ...จะว่าไปแอนไทเอจจิงก็เหมือนคำพังเพยไทยที่ว่า "กันไว้ดีกว่าแก้" นั่นแหละค่ะ
เห็นไหมคะว่า นับวัน นวัตกรรมการดูแลความสวยความงามจะก้าวไกลยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันหนุ่มสาวยุคใหม่ก็หันมาดูแลตัวเองกันมากขึ้นเช่นกัน ฉะนั้น ถ้าใครไม่อยากตกกระแส อย่าลืมหันมาดูแลสุขภาพกันด้วยนะคะ
วันเสาร์ที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2551
น้ำส้มคั่น ขยันสู้นิ่ว!
นอกจากน้ำส้มแล้ว ผลไม้อื่นๆ ที่มีสเปรี้ยวก็ช่วยป้องกันนิ่วได้เช่นกัน ยกเว้นน้ำมะนาว
ซึ่งเปรี้ยวจี๊ดจ้าดที่สุด แต่กลับไม่ช่วยหยุดนิ่วเลย เพราะน้ำมะนาวมีกรดไอโดรเจนผสมอยู่ ทำให้ความเข้มข้นของปัสสาวะไม่ลดลง
อย่างนี้รู้แล้วก็อย่านิ่งเฉยกันนะค่ะ
วันพฤหัสบดีที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2551
วิธีอร่อย ได้แบบไม่อ้วน !!!
"อ้วน" กำลังจะกลายเป็นคำหยาบที่ไม่มีใครอยากได้ยิน ใครๆ ต่างพากันหาวิธีรักษาสุขภาพให้ไม่อ้วน หรือตกอยู่ในภาวะน้ำหนักเกิน กันยกใหญ่
สูตรลดความอ้วนหลายหลากถูกนำเสนอกันขึ้นมา ล่าสุด จากการวิเคราะห์ผลการสำรวจภาวะโภชนาการแห่งชาติ โดยสถาบันวิจัยโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล พบว่าร้อยละ 63.4 ของพลังงานที่คนไทยบริโภคในแต่ละวันนั้น มาจากข้าวและผลิตภัณฑ์จากธัญพืช บวกกับพลังงานร้อยละ 2.1 ได้มาจากน้ำตาลทราย แล้วยังมีพลังงานส่วนน้อยที่มาจากคาร์โบไฮเดรตในเครื่องดื่ม (1.4%) และผลไม้ (1.1 %) แสดงว่า พลังงานคาร์โบไฮเดรตที่คนไทยบริโภคแต่ละวัน คิดเป็นร้อยละ 60 กว่านั้น ทำให้คนวัยทำงานเกิดภาวะน้ำหนักเกินและโรคอ้วน ดังนั้นจึงควรจะลดสารอาหารคาร์โบไฮเดรตในแต่ละวันลง
รศ.ดร.ปรียา ลีฬหกุล อาจารย์นักโภชนาการจากสำนักงานวิจัย คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี แนะนำว่าคนไทยสามารถหลีกหนีโรคอ้วนโดยยังอร่อยได้อร่อยดีอยู่ ไม่ขัดกับชีวิตประจำวันและยังมีความสุขกับการกินได้ โดยให้คำนึงถึงหลักว่า
"น้ำหนักคนเราอยู่ในเกณฑ์ปกติได้ เมื่อพลังงานที่ได้รับจากอาหารสมดุลกับพลังงานที่ใช้ในแต่ละวัน" รศ.ปรียา กล่าว พร้อมทั้งอธิบายว่า การที่พลังงานสมดุลไม่เหลือสะสมในรูปไขมัน ก็ไม่ต้องกังวลกับตัวเลขว่าต้องกินวันละกี่กิโลแคลอรี ขอเพียงชั่งน้ำหนักทุกวัน ถ้าอยู่ในเกณฑ์ปกติ แสดงว่าได้พลังงานพอไม่มากหรือน้อยไปดังนั้น การกินน้ำตาลบ้าง ร่วมกับอาหารไขมันต่ำ จะทำให้อาหารนั้นยังอร่อยอยู่ และง่ายต่อการปฏิบัติตาม
นอกจากนี้ จากงานวิจัยที่ได้ศึกษาพบว่าการกินอาหารประเภทแป้งและน้ำตาล จะให้ความรู้สึกอิ่มและลดความอยากอาหารได้ดี ในขณะที่การกินอาหารพลังงานสูงๆ โดยเฉพาะจากไขมัน รวมทั้งการใช้ชีวิตที่ไม่ค่อยเคลื่อนไหวมาก จะเป็นสองปัจจัยหลักที่ทำให้เกิดภาวะน้ำหนักเกิน และโรคอ้วนจัดว่าเป็นอีกเคล็ดลับหนึ่งในการลดน้ำหนัก แบบไม่ทำร้ายจิตใจ
วันจันทร์ที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2551
กินปลาดีกว่าน้ำมันปลา ป้องกันเสี่ยง โรคหัวใจ
สถาบันอาหาร สุขภาพ และโภชนาการมนุษย์แห่งนิวซีแลนด์ แนะนำว่า ควรจะกินปลาแซลมอนโดยตรงจะได้ คุณประโยชน์มากกว่ากินน้ำมันปลาแคปซูล
นักวิจัยของสถาบันได้ศึกษาพบว่า แม้ว่าการกินปลากับกินแคปซูลน้ำมันปลาจะได้ประโยชน์พอๆ กัน ช่วยเพิ่มระดับของสารโอเมกา-3 แต่การกินปลายังได้คุณประโยชน์ ช่วยให้เลือดมีความเข้มข้นของเซเลเนียมที่เป็นสารต่อต้านอนุมูลอิสระมากขึ้นอีกด้วย
ผู้ช่วยศาสตราจารย์เวลมา สโตนเฮาส์ หัวหน้าคณะนักวิจัย ยังแจ้งด้วยว่า เซเลเนียมนอกจากมีส่วนช่วยลดความเสี่ยงของการเป็น มะเร็ง แล้ว ยังเชื่อว่ามันยังช่วยขจัดความเสี่ยงของโรคหัวใจอีกด้วย
วันพุธที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2551
อาหารชนิดไหน? ใช้เวลาย่อยนานที่สุด
30 นาที ได้แก่พวกน้ำ กาแฟ ชา น้ำสมุนไพร และแพงจืดหมูสับ
1 ชั่วโมง ได้แก่พวกขนมปังขาว โยเกิร์ต นม ผลิตภัณฑ์นม และผลไม้สุกแล้ว
2 ชั่วโมง ได้แก่พวกผลไม้ ผัก มันฝรั่ง เนื้อปลา
3 ชั่วโมง ได้แก่พวกครัวซองต์ ขนมปังโฮสวีต โดนัท เค้ก ขนมปังเบเกอรี่
4-7 ชั่วโมง ได้แก่พวกหมูสับ ของทอด เห็ด ผลไม้เปลือกแข็ง
8-9 ชั่วโมง ได้แก่พวกขาหมู ผักกะหล่ำ เนื้อวัว เนื้อนกกระจอกเทศ